เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 2 เม.ย. พ.ต.ท.สมพงษ์ อดิวงษ์ธาดา สารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุบอลลูนตกกระแทกหลังคาโกดังกระจายสินค้าบริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หนองขาม หมู่ 11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังนำนักท่องเที่ยวบินขึ้นชมความงามของงานเทศกาลอาหารอร่อย โดยมีนักท่องเที่ยวเป็นครอบครัว พ่อแม่และลูก วัย 3 ปี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ควบคุมบอลลูนอีกจำนวน 1 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา
ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่กำลังช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 4 คน ลงจากหลังคาโกดังกระจายสินค้าดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องช่วยเหลือด้วยความทุลักทุเล เนื่องในบริเวณที่เกิดเหตุเกิดตกฝนลงมาอย่างหนัก รวมถึงมีกระแสลมแรง ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายชัยรัตน์ โสประดิษฐ์ อายุ 31 ปี น.ส.ภัทรากรณ์ ปานโป๊ะ อายุ 31 ปี และ ด.ช.วัชราเกียรติ โสประดิษฐ์ อายุ 3 ปี พ่อแม่และลูก ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลถลอกตามร่างกายและปวดตามแขนและขา เนื่องจากการตกกระแทกหลังคา ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังพบ น.ส.อภิรดี โทนุสิทธิ์ อายุ 32 ปี ผู้ควบคุมบอลลูน ได้รับบาดเจ็บที่ร่างกายมีอาการปวดตามลำตัวเช่นกัน
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บลงจากหลังคาแล้ว ก็ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา ส่วน น.ส.อภิรดี ถูกนำส่งโรงพยาบาลวิภารามแหลมฉบัง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 4 ราย ซึ่งเป็นผู้ดึงเชือกบอลลูนไว้ ไม่ให้ลอยไปไกล ซึ่งก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่บาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณแขนและข้อมือ จึงไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล
จากการสอบสวนนายไชยา ละดาดาษ อายุ 42 ปี คนเห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้เกิดลมกระโชกแรงและมีฝนตกลงมาอย่างมาก ส่งผลให้บอลลูนที่นำนักท่องเที่ยวบินขึ้นชมความงามของเทศกาลอาหารอร่อย หนุนเป็นจนดึงเชือกที่ยึดกับฐานพื้นไว้หลุดกระเด็นออก ในขณะนั้นก็ได้มีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนวิ่งระดมกันเข้ามาช่วยดึงเชือกบอลลูนไว้เพื่อไม่ให้ลอยออกไป แต่ก็ไม่เป็นผล เชือกที่ผูกไว้ระหว่างบอลลูนกับเจ้าหน้าที่ ที่ดึงไว้ได้ขาดออกจากกัน จนส่งผลให้บอลลูนดังกล่าวลอยออกไปติดหลังคาโกดังกระจายสินค้า ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ ก่อนจะเรียกตัวผู้ควบคุมงานมาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ พร้อมกับให้ผู้บาดเจ็บได้ทำการรักษาตัวดูอาการก่อน และจะนัดมาทำการสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้นอีกครั้งต่อไป
